ประวัติของเพียเจต์
- จอห์น เพียเจต์ (พ.ศ. 2439
- 2523) Jean Piaget (ค.ศ.1896 - 1980) ผู้สร้างทฤษฎีพัฒนาการเชาวน์ปัญญา
- ทฤษฎีเกี่ยวกับพัฒนาการเชาวน์ปัญญาที่ผู้เขียนเห็นว่ามีประโยชน์สำหรับครู
คือ ทฤษฎีของนักจิตวิทยาชาวสวิส ชื่อ เพียเจต์
(Piaget)
- เพียเจต์ได้รับปริญญาเอกทางวิทยาศาสตร์สาขาสัตวิทยาที่มหาวิทยาลัยNeuchatelประเทศสวิสเซอร์แลนด์
- เพียเจต์ (
Piaget) ได้ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กว่ามีขั้นตอนหรือกระบวนการอย่างไร
- ทฤษฎีของเพียเจต์ตั้งอยู่บนรากฐานของทั้งองค์ประกอบที่เป็นพันธุกรรม
และสิ่งแวดล้อม
ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์ มีสาระสรุปได้ดังนี้
ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์ มีสาระสรุปได้ดังนี้
1)
พัฒนาการทางสติปัญญาของบุคคลเป็นไปตามวัยต่าง ๆ เป็นลำดับขั้น ดังนี้
1.1ขั้นประสาทรับรู้และการเคลื่อนไหว (Sensori Motor Stage) ขั้นนี้เริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ปี
1.2) ขั้นก่อนปฏิบัติการคิด (Preoperational Stage) ขั้นนี้เริ่มตั้งแต่อายุ 2-7 ปี
แบ่งออกเป็นขั้นย่อยอีก 2 ขั้น คือ
1. ขั้นก่อนเกิดสังกัป เป็นขั้นพัฒนาการของเด็กอายุ 2-4 ปี
2. ขั้นการคิดแบบญาณหยั่งรู้ นึกออกเองโดยไม่ใช้เหตุผล เป็นขั้นพัฒนาการของเด็ก อายุ 4-7 ปี
1. ขั้นก่อนเกิดสังกัป เป็นขั้นพัฒนาการของเด็กอายุ 2-4 ปี
2. ขั้นการคิดแบบญาณหยั่งรู้ นึกออกเองโดยไม่ใช้เหตุผล เป็นขั้นพัฒนาการของเด็ก อายุ 4-7 ปี
1.3)
ขั้นปฏิบัติการคิดด้านรูปธรรม (Concrete Operation Stage)
ขั้นนี้จะเริ่มจากอายุ 7-11 ปี
1.4)
ขั้นปฏิบัติการคิดด้วยนามธรรม (Formal Operational Stage)
ขั้นนี้จะเริ่มจากอายุ 11-15 ปี
สิ่งที่เป็นนามธรรมพัฒนาการทางการรู้คิดของเด็กในช่วงอายุ 6
ปีแรกของชีวิต ซึ่งเพียเจต์ ได้ศึกษาไว้เป็นประสบการณ์
สำคัญที่เด็กควรได้รับการส่งเสริม มี 6 ขั้น
ได้แก่
1. ขั้นความรู้แตกต่าง
2. ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม
3. ขั้นรู้หลายระดับ
4. ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง
5. ขั้นรู้ผลของการกระทำ
6. ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว
2. ขั้นรู้สิ่งตรงกันข้าม
3. ขั้นรู้หลายระดับ
4. ขั้นความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง
5. ขั้นรู้ผลของการกระทำ
6. ขั้นการทดแทนอย่างลงตัว
2)
ภาษาและกระบวนการคิดของเด็กแตกต่างจากผู้ใหญ่
3)
กระบวนการทางสติปัญญามีลักษณะดังนี้
3.1)
การซึมซับหรือการดูดซึม (assimilation)
3.3)
การเกิดความสมดุล (equilibration)
3.2)
การปรับและจัดระบบ (accommodation)
การนำไปใช้ในการจัดการศึกษา / การสอน
เมื่อทำงานกับนักเรียน
ผู้สอนควรคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนดังต่อไปนี้
1.
นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกันนักเรียนแต่ละคนจะได้รับประสบการณ์
2 แบบคือ
-
ประสบการณ์ทางกายภาพ (physical experiences)
-
ประสบการณ์ทางตรรกศาสตร์ (Logicomathematical
experiences)
2. หลักสูตรที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์
ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้คือ
-
เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน
-
เสนอการเรียนการเสนอที่ให้ผู้เรียนพบกับความแปลกใหม่
-
เน้นการเรียนรู้ต้องอาศัยกิจกรรมการค้นพบ
-
เน้นกิจกรรมการสำรวจและการเพิ่มขยายความคิดในระหว่างการเรียนการสอน
-
ใช้กิจกรรมขัดแย้ง (cognitive conflict
activities)
3.
การสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนควรดำเนินการดังต่อไปนี้
-
ถามคำถามมากกว่าการให้คำตอบ
-
ครูผู้สอนควรจะพูดให้น้อยลง และฟังให้มากขึ้น
-
ควรให้เสรีภาพแก่นักเรียนที่จะเลือกเรียนกิจกรรมต่าง ๆ
-
เมื่อนักเรียนให้เหตุผลผิด
ควรถามคำถามหรือจัดประสบการณ์ให้นักเรียนใหม่
เพื่อนักเรียนจะได้แก้ไขข้อผิดพลาดด้วยตนเอง
-
ชี้ระดับพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนจากงานพัฒนาการทางสติปัญญาขั้นนามธรรมหรือจากงานการอนุรักษ์
เพื่อดูว่านักเรียนคิดอย่างไร
-
ยอมรับความจริงที่ว่า
นักเรียนแต่ละคนมีอัตราพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน
-
ผู้สอนต้องเข้าใจว่านักเรียนมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป
-
ตระหนักว่าการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นเพราะจดจำมากกว่าที่จะเข้าใจ
เป็นการเรียนรู้ที่ไม่แท้จริง (pseudo learning)
4.
ในขั้นประเมินผล ควรดำเนินการสอนต่อไปนี้
-
มีการทดสอบแบบการให้เหตุผลของนักเรียน
-
พยายามให้นักเรียนแสดงเหตุผลในการตอนคำถามนั้น ๆ
-
ต้องช่วยเหลือนักเรียนทีมีพัฒนาการทางสติปัญญาต่ำกว่าเพื่อนร่วมชั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น